Date:
October 31, 25

เคล็ด(ไม่)ลับของบริษัทที่นำเข้าสินค้าได้ตรงเวลา และไม่เสียค่าใช้จ่ายเกินจำเป็น
หลายบริษัทเจอปัญหานำเข้าล่าช้า เอกสารไม่ครบ หรือเสียค่าใช้จ่ายเกินจำเป็น
สาเหตุหลักมักมาจาก “ไม่เข้าใจขั้นตอนนำเข้าอย่างครบวงจร”
วันนี้ LISSOM LOGISTICS ขอสรุปให้เข้าใจง่าย ตั้งแต่เรือใกล้ถึงท่า จนถึงการปล่อยตู้เสร็จสมบูรณ์
ขั้นตอนนำเข้าสินค้าทางเรือ (Import Clearance Process)
1. ETA (Estimated Time of Arrival)
วันที่เรือจะถึงท่า ต้องตรวจสอบล่วงหน้าเพื่อเตรียมเอกสารให้พร้อม
2. รับเอกสารจากต้นทาง (Pre-Alert / B/L / Invoice / Packing List)
ใช้ตรวจสอบข้อมูลสินค้าและวางแผนดำเนินพิธีการศุลกากร
3. ตรวจสอบ Draft B/L
ตรวจชื่อผู้นำเข้า รายละเอียดสินค้า และท่าเรือให้ถูกต้องก่อนออก B/L จริง
4. รับ Arrival Notice จากสายเรือ
ใช้คำนวณค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น THC, DO Fee, Handling
5. ชำระค่า Freight และ DO Fee
เพื่อขอรับเอกสารสำคัญ Delivery Order (DO) จากสายเรือ
6. จัดทำใบขนสินค้านำเข้า (Import Declaration)
ผ่านระบบ e-Customs พร้อมแนบเอกสารประกอบครบถ้วน
7. ชำระภาษีนำเข้าและภาษีมูลค่าเพิ่ม (ถ้ามี)
ตรวจสอบ HS Code ให้ถูกต้อง เพื่อป้องกันปัญหาภายหลัง
8. รับตู้สินค้าจากท่า และตรวจสอบสภาพสินค้า
ควรวางแผนรถขนส่งและการคืนตู้ให้ทันภายใน Free Time
9. DO Release / Job Complete
ปล่อยตู้เรียบร้อย สินค้าถึงปลายทางตรงเวลา และไม่มีค่าใช้จ่ายเกินจำเป็น
หากไม่อยากเสียเวลาเรียนรู้ขั้นตอนนำเข้าด้วยตัวเอง หรือกังวลเรื่องเอกสารที่ซับซ้อน
ให้ LISSOM LOGISTICS ดูแลให้ครบตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางได้เลยครับ
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเราพร้อมให้คำปรึกษา และดำเนินพิธีการศุลกากรให้คุณอย่างราบรื่น เพื่อให้สินค้าของคุณ “ถึงที่หมาย ตรงเวลา และไม่มีค่าใช้จ่ายเกินจำเป็น”
02-8959771
091-4195466
Line OA: https://lin.ee/r8pojRd
[email protected]
https://bit.ly/2R6qhy8
FB: https://bit.ly/2JuJx44
Messenger: https://www.messenger.com/t/lissomlogistics